ความขยันเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้า ขยัน ผิดที่ ผิดเวลา ขยัน แบบผิดวิธี ก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ
ดั่ง”ขงจื้อ” ได้เคยกล่าวไว้เมื่อประมาณหลายร้อยปีก่อนว่า..อย่าเป็นคนขยันแบบคนโง่…
ขยันผิดที่ ผิดเวลา คนฉลาดส่วนมากจะไม่ทำกัน
คนขยัน ควรส่งเสริมให้เป็นแม่ทัพ คนสำคัญ คนฉลาดและขี้เกียจ ควรเลี้ยงไว้ให้เป็นแค่ทหาร
ฝ่ายเสนาธิการ เพื่อคอยวางแผนอยู่เบื้องหลัง คนที่โ ง่และคนขี้เกียจ ควรเก็บไว้ใช้สอย
ทำงานตามคำสั่งก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าเจอคนโ ง่ และยังขยันอีก จะเอาไปทิ้ง
เพราะจะทำให้เสียงาน เสียการเปล่าๆ จะก่อความเดือดร้อนให้ ไม่รู้จักจบรู้จักสิ้น
ดังนั้น ไม่ว่าคุณ จะเป็นคนฉลาดหรือโ ง่ การขยันแบบไม่รู้จักเวล่ำเวลา ขยันทำ ในสิ่งที่ผิดๆ
ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็จะสร้าง แต่ความเสียหายได้มากกว่าก่อให้เกิดประโยชน์
หากเริ่มตั้งแต่วันนี้ ก็ยังไม่สาย เลิกทำสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ เลือกทำในสิ่งที่ยังผิด
หาเวลา และเหตุผลดีๆ ไปปรับตัว ปรับนิสัยของตัวเองตามข้อคิด 7 ข้อคิดนี้ดูนะ
ประการที่ 1 “อย่าขยันผิดเวลา”
การขยันทำงาน ตอนไฟลนก้น ทำให้อารมณ์เสีย และทำล า ยความสัมพันธ์กับ
ผู้คนรอบข้าง ลองจัดสรรเวลาทำงานใหม่ โดยเตรียมงานไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
แล้วคุณจะไม่ต้องปรี๊ดแตก ใส่ใครต่อใคร ให้เสียบรรย ากาศในการทำงานอีกด้วย
ประการที่ 2 “อย่าหักโหมเกินไป”
สำหรับการทำงาน ที่หักโหมเกินไป ทำงานโต้รุ่ง หามรุ่งหามค่ำ เป็นการทำล า ย
ความคิดในการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ เพราะ เมื่อส ม อ งเบลอแล้วนั้น
ไม่มีทาง ที่จะคิดเรื่องอะไรออก เรื่องนี้บอกเลยว่า คือเรื่องจริง เพราะทางนักวิทย าศาสตร์
ได้วิจัย ในส่วนของการนอนหลับพักผ่อน ที่ไม่เพียงพอ จะทำให้ส ม อ งนั้น
ไม่สามารถไปกระตุ้น ในส่วนของการสร้างสรรค์ และการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้นั้นเอง
ประการที่ 3 “ใช้สมอง”
การที่ขยันทำงาน เน้นแต่ปริมาณ โดยที่ไม่ใช้สมอง ไม่มีทางทำให้เกิดผลงานที่มีคุณภาพที่ดีได้
ลองเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่ดูนะ คิดให้ถี่ถ้วนก่อน ที่จะลงมือทำอะไรก็แล้วแต่
ลองจัดอันดับความสำคัญให้เป็น เชื่อเลยว่า งานจะเสร็จเร็วกว่าเดิม แถมยังได้งานที่ดี
และมีคุณภาพด้วย ไม่ใช่สักแต่ว่าทำไปวันๆ โดยไม่รู้จักการวางแผนงานเลย
ประการที่ 4 “แบบอย่างที่ดี”
ถ้าคุณเป็นเจ้านายคน คุณควรเป็นแบบอย่างที่ดี ของลูกน้อง โดยเฉพาะ การบริหารจัดการเวลา
คนที่ทำงานเป็น ไม่จำเป็นต้องใช้เวลา อยู่ในออฟฟิศจนดึกดื่น เพื่อให้ได้ผลงานน้อยนิด
ประการที่ 5 “สุ ขภ า พ”
ขยันทำงานจนหามรุ่งหามค่ำ บั่ นท อ นสุ ขภ า พ และทรุดโทรม ตัวอย่างสุดช็อก
ที่เกิดขึ้นปลายปีที่แล้ว เมื่อสาวน้อยก๊อบปี้ไรเตอร์โฆ ษ ณ าชาวอินโดนีเซีย “มิต้า ดิแรน”
วัย 24 ปี หัวใจว า ยเฉี ย บพลัน คาโต๊ะ หลังที่เธอทำงานหนักติดต่อกัน 30 ชั่วโมง โดยไม่ได้หยุดพัก
ประการที่ 6 “ใจเย็น”
หยุดคิดสักนิด แล้วจะรู้ว่า..งานส่วนใหญ่ที่ บ้ าทำอยู่ตอนนี้ แทบจะไม่มีความสำคัญอะไรเลย
มนุษย์เงินเดือนจำนวนมาก ก้มหน้าก้มตาทำงานซ้ำๆ อยู่ในออฟฟิศ วันละหลายชั่ วโมง
โดยไม่เคยถามตัวเองเลยว่า… สิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ มีประโยชน์กับชีวิต มากน้อยแค่ไหน
ทำให้เราพัฒนาขึ้นหรือเปล่า ทำให้เราเก่งขึ้นหรือเปล่า หรือให้อะไรกับสังคมบ้าง ?
ประการที่ 7 “ครอบครัว คือที่หนึ่ง”
ครอบครัวต้องมาก่อนเสมอ อย่าปล่อยให้การงาน ทำชีวิตครอบครัวพัง ความก้าวหน้าทางการงาน
อาจสำคัญ สำหรับใครหลายๆ คน แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว เทียบไม่ได้เลย
กับการมีครอบครัวที่แสนจะอบอุ่น น่ารัก เพราะไม่ว่ายามสุข หรือทุ ก ข์
พวกเขา..คือ คนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเราจริงๆ พวกเขาจะคอยอยู่เป็นกำลังใจให้คุณเสมอ
“อย่าใส่ใจว่าคนอื่นจะมองอย่างไร
มีชื่อเสียง หรือมีฐานะอย่างไร
แต่ให้สนใจว่าตนเองมีค่าแก่การ
ความเคารพนับถือ แล้วหรือไม่..
ข้อคิด…ขงจื้อ “
ขอบคุณแหล่งที่มา : P o s t s a r a
