พ่อแม่ทุกคน ล้วนอยากให้ลูกของตัวเอง เป็นเด็กดี เก่ง ฉลาด และโตมามี พัฒนาการ ที่ดีสมวัย
แต่ในบางครั้ง ความหวังดีของพ่อแม่ อาจทำ ร้ า ย พัฒนาการ เติบโตของลูกโดยไม่ได้ตั้งใจได้
ด้วย 7 พฤติก ร ร มเหล่านี้ ถ้าไม่อยากให้ลูก เป็นเด็กที่ไม่รู้จักโต พ่อแม่ควรเลิกทำ
1. ปลุกลูกไปโรงเรียนตอนเช้าทุกวัน
เรียกได้ว่า..เป็นกิจวัตรประจำวัน ของคุณแม่ ที่ต้องทำทุกเช้า คือการปลุกลูก เพื่อให้ไปโรงเรียน
ซึ่งความจริงแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกลูก ให้ตั้งนาฬิกาปลุกและจัดสรรเวลานอนให้เหมาะสม
เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ ที่จะจัดการกับตารางชีวิตของตัวเอง
2. นำของที่ลูกลืมไปให้ถึงที่โรงเรียน
การที่ลูกโทรมา เพื่อบอกให้คุณพ่อคุณแม่ เอาสิ่งของที่ลืมไปส่งที่โรงเรียนมาให้
โดยที่คุณ ก็ทำตามที่ลูกสั่งทุกครั้ง ซึ่งนั่น อาจทำให้ลูกกลายเป็นเด็กที่ไม่มีความรอบคอบได้
ดังนั้น เมื่อลูกโทรมา เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ทำแบบนี้อีก โดยที่ของชิ้นนั้น ไม่ได้มีความสำคัญ
อะไรมากนัก ก็ควรบอกปัดไป เพื่อให้ลูกรู้จักมีความรอบคอบมากขึ้นและคราวหลัง
จะได้ตรวจความเรียบร้อย ของสิ่งของเครื่องใช้ที่ต้องเอาไปโรงเรียน ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
3. ยอมให้ลูกหยุดเรียน
เพราะเด็กบางคน อาจมีอาการป่ ว ยการเมือง เนื่องด้วยสาเหตุหลายๆ อย่าง หรือขิ้ เกลีย ดบ้าง
อาจจะเกิดจากวิชาเรียน และการบ้านต่างๆ ซึ่งวิชาเรียนอาจง่ายเกินไป ทำให้เด็กเกิดความเบื่อ
หรือ วิชาเรียนยากจนเกินไป ทำให้เด็กเกิดความกดดัน ว่าตัวเอง ไม่ฉลาดเท่าเด็กคนอื่นๆ
สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรทำ ก็คือ.. อย่าถามลูกว่า ทำไมถึงไม่อยากการไปโรงเรียน
เนื่องจากเด็กมักจะไม่รู้คำตอบ เมื่อเด็กไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ก็จะเป็นการทำให้เด็กนั้น
เกิดความรู้สึกเค รี ย ดแทนได้ ทั้งนี้พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรบอกเด็กว่า..ความกลัวไม่ช่วยอะไร
หากแต่เด็ก ควรเอาชนะความกลัวให้ได้ ควรเปิดใจให้กว้าง ในการรับฟังความรู้สึกของลูก
4. ขีดเส้นชีวิตให้ลูก
กำหนด ก ฎ เ ก ณ ฑ์ ข้อปฏิบัติต่างๆ ให้ลูกเดินตาม ทางที่พ่อแม่ปูไว้
ซึ่งนั่น อาจเป็นเรื่องดี ที่จะทำให้ลูกมีวินัย แต่ในทุกๆ กฎที่พ่อแม่ตั้งไว้ ควรให้ลูกรับรู้ด้วย
พร้อมให้ลูกมีส่วนร่วม ในการขีดเส้นชีวิตของตนเอง และต้องปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้
ที่จะทำบางสิ่ง บางอย่างด้วยตัวเองบ้าง เพียงเท่านี้ความสำเร็จในชีวิตลูก ก็จะอยู่ไม่ไกล
สุดท้ายนี้ การเลี้ยงลูกที่ถูกต้อง จะต้องอย่าให้ลูกเปราะบางจนเกินไป เหมือนไข่ในหิน
อย่าเลี้ยงลูกให้เห็นแก่ตัว ต้องเลี้ยงลูกให้เติบโตไปตามวัย อย่าให้กินยากอยู่ยาก
อย่าให้ลูกกลัวในสิ่งที่ไร้สาระ โดยพ่อแม่ควรเริ่มต้น จากการสร้างนิสัยเด็ก ด้วยการเอาตัวเอง
เป็นแบบอย่างที่ดี พร้อมกับฝึกให้เด็กรับรู้ และรู้จักรับผิดชอบด้วยตัวเอง รวมทั้งเปิดโอกาส
ให้เด็กได้เรียนรู้ ฝึกฝน จะทำให้ลูก สามารถหาแนวทางดำเนินชีวิต ตามหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี
5. ไม่ยอมปล่อยให้ครูมาว่ากล่าว ตักเตือน หรือตีลูก
ถ้าลูกมา ฟ้ อ ง คุณว่า ถูกครูตี หรือว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งนั่น อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ มีอาการหัวร้อน
และพร้อมจะไปเคลียร์กับครูที่โรงเรียน แต่เรื่องนี้ เป็นสิ่งที่อยากบอกว่า…คนเป็นพ่อเป็นแม่
ต้องใจเย็นๆ ก่อน และอาจต้องสอบถามลูก ถึงสาเหตุที่ครูต้องทำเช่นนั้น
หากลูกทำความผิดจริงๆ และการลงโทษไม่ได้ ร้ า ย แ ร งมาก ก็ไม่ต้องถึงขั้นไปคุย
กับคุณครูเองที่โรงเรียน ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณครูที่ต้องอบรมสั่งสอนลูกของเราอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ควรทำคือ ให้คุณพ่อคุณแม่สอนลูกแทน ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร เพื่อไม่ให้โดนครูล งโท ษอีก
6. ยุ่งกับการเรียน
การเป็นห่วง การสนใจในเรื่องการเรียน หรือความเป็นอยู่ที่โรงเรียนของลูกไม่ใช่เรื่องผิดหรอกอะไร
แต่การที่คุณพ่อคุณแม่ ไปบงการหรือกำหนดการเรียนมากเกินไป โดยไม่ให้เขามีสิทธิคิด
หรือตัดสินใจด้วยตัวเองเลย นั่นอาจจะทำให้ลูกของคุณไม่โตเป็นผู้ใหญ่สักที
7. ซักเสื้อผ้าให้ลูก
เมื่อลูกโตพอที่จะทำงานในบ้านได้แล้ว แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยฝึก หรือให้ลูกได้ทำด้วยตัวเองเลย
การที่คุณแม่ซักเสื้อผ้าให้ลูกบ่อยๆหรือทุกวัน อาจทำให้เด็กเคยตัวและเคยชิน
ลูกจะไม่มีความรับผิดชอบ ดังนั้น หากเด็กอยู่ในวัยที่พอเรียนรู้ และทำอะไรด้วยตัวเอง
คุณแม่ก็ควรสอนลูก ให้รู้ถึงวิธีการใช้เครื่องซักผ้า หรือการซักผ้าด้วยมือ เขาจะได้ฝึกทำมันด้วยตัวเอง
การเลี้ยงลูกนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ยากเกินไป เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนสามารถทำได้
วิธีการเหล่านี้ จะประสบผลสำเร็จได้ ก็ต่อเมื่อ พ่อแม่ต้องใจแข็ง และต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจกัน
จากครอบครว เพราะพื้นฐานความอบอุ่นของครอบครัว จะช่วยเป็นแรงเสริมให้ลูกมีกำลังใจ
ให้ลูกของเรา สามารถเติบโตไป เป็นคนเก่ง เป็นคนดีและไม่เป็นภาระให้ใคร
“จงสอนลูกให้รู้จักความลำบาก
เพราะวันนึง หากเค้าไม่มีเรา
เค้าจะยัง…ยืนด้วยตัวเองได้”
ขอบคุณ : k r u u p d a t e .c o m
