Home ข้อคิด คนไม่มีลูก… เมื่อย ามแก่ชรา “ใครจะเลี้ยงดู” (อ่านไว้เตือนใจตัวเอง)

คนไม่มีลูก… เมื่อย ามแก่ชรา “ใครจะเลี้ยงดู” (อ่านไว้เตือนใจตัวเอง)

1 second read
ปิดความเห็น บน คนไม่มีลูก… เมื่อย ามแก่ชรา “ใครจะเลี้ยงดู” (อ่านไว้เตือนใจตัวเอง)
0
คนไม่มีลูก

ไม่มีลูก “แก่มาใครจะเลี้ยง” พูดถึงเรื่องลูก คนแก่สมัยก่อนมักคิดว่า… ต้องมีครอบครัว ต้องแต่งงาน

ต้องมีลูกเยอะๆ จะได้เอาไว้ใช้ตอนแก่ แล้วคนรุ่นใหม่ คิดแบบนี้รึป่าว ถ้า ไม่มีลูก “แก่มาใครจะเลี้ยง”

ซึ่งความคิดแบบนี้ ถูกส่งต่อสืบทอดกันมา ตั้งแต่โบราณกันเลยทีเดียว และหลายๆ คน

ก็ยังคิดแบบนี้กันอยู่ด้วย แล้วคุณล่ะ คิดยังไงกับเรื่องนี้ ยังไม่ต้องตอบเรา แต่คุณลองมาดู

และให้คำตอบตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ จะช่วยสอนใจและเป็นข้อคิดให้คุณได้ไม่น้อยเลย

เรื่องมีอยู่ว่า… มีคุณแม่คนหนึ่ง ที่สามีของเธอได้เสียไปนานแล้ว เธอทำงานคนเดียว

โดยการสอนหนังสือ หาเ งิน มาเลี้ยงครอบครัว และเลี้ยงลูกชายจนเติบโตมา

และเด็กชาย ก็เป็นคนว่าง่าย เชื่อฟังแม่ตั้งแต่เด็กๆ เลยพอลูกโตก็ส่งไปเรียนต่อที่อเมริกา

หลังจากเรียนจบ เขาก็อยู่ทำงานที่นั่นต่อ ซื้อบ้านแต่งงาน มีลูก 1 คน สร้างครอบครัวอบอุ่น และมีความสุข

และแม่เขาก็ตัดสินใจ ย้ายไปอยู่กับลูก หลาน และลูกสะใภ้ที่อเมริกา

ในช่วงวัยหลังเกษียณ ชีวิตบั้นปลาย ก็มีความสุขดี ซึ่ง 3 เดือนก่อนที่จะเกษียณนั้น

ก็รีบเขียนจดหมายบอกกับลูกชาย ซึ่งบอกถึงความปรารถนากับลูกชายว่า…

มีลูกเอาไว้เลี้ยงย ามเเก่ คิดถึงสายตาของญาติพี่น้อง เพื่อนๆ เพียงแค่คิดถึงภาพเหล่านั้น

ว่าทุกคนจะอิจฉาเธอ เธอก็มีความสุขแล้ว จากนั้นส่งไปก็รอจดหมายตอบกลับจากลูกชายสุดที่รัก

ซึ่งเธอก็จัดการเรื่องบ้านงานต่างๆ เรียบร้อย และในคืนสุดท้าย ก่อนที่เธอเกษียณนั้น

ไม่นานจดหมายจากลูกชาย ณ แดนไกลก็มาถึง พอเปิดออกมาดู ก็เห็นเป็นเช็ค

มูลค่า 35,000 เหรียญดอลล่าห์ เธอก็แปลกใจมาก เพราะลูกชายไม่เคยส่งเ งินให้เธอเลย

แล้วหลังจากนั้น ก็ได้เปิดอ่า น “จดหมายมีใจความว่า” แม่ครับ เราได้คุยกันแล้วและได้ข้อสรุปว่า…

พวกเราไม่ยินดี ให้แม่มาอยู่ด้วยที่อเมริกา ถ้าแม่คิดว่า แม่มีบุญคุณที่เลี้ยงดูผมมา

ผมคำนวณตามราคาตลาดแล้ว ก็จะประมาณ 30,000 กว่าเหรียญ ผมก็เลยเพิ่มให้นิดหน่อย

แล้วส่งเช็คให้ 35,000 เหรียญ มาให้แม่นะครับ และหวังว่า ต่อไปนี้ แม่จะไม่เขียนจดหมายหาผมอีก

หลังจากอ่ านจดหมายจบ น้ำตาก็ไหลเลย รู้สึกเหมือนต้องเป็นม่ายไปตลอดชีวิต

และเธอก็ตัดสินใจ ศึกษาพระพุทธศาสนา หลังจากนั้น เธอก็คิดได้ว่า เธอใช้เงิ น 3.5 หมื่นเหรียญ

ไปเที่ยวรอบโลก จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ แล้วหลังจากนั้นเธอก็เขียนจดหมาย 1 ฉบับ ไปหาลูกชาย

ใจความในจดหมายเขียนว่า…ลูกรัก ลูกไม่อย ากให้แม่เขียนจดหมายมาอีก ก็ให้คิดเถอะว่า

จดหมายฉบับนี้ เป็นข้อความเพิ่มเติม จากฉบับที่แล้วนะ แม่ได้รับเช็คแล้ว และใช้เงิ นนั้น

เดินทางเที่ยวรอบโลก ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวอยู่นั้น อยู่ๆ แม่ก็รู้สึกว่า แม่ควรขอบใจลูก

“ขอบใจ” ที่ทำให้แม่ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง แม่ได้ปล่อยวาง ทำให้แม่ได้เห็นว่า..

ความสัมพันธ์ในครอบครัว เพื่อน คนรัก ไม่มีรากหยั่งลึกเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

ถ้าวันนี้ แม่ยังคิดไม่ตก ยังยึดติดยังทุกข์ แม่คงจากไปแล้ว จากการปฏิเสธของลูก ทำให้แม่ได้เห็นว่า

“คนเรา ถ้ามีวาสนาก็ได้เจอ หมดวาสนาก็ต้องจากกัน ทุกอย่างไม่เที่ยงแท้”

ทำให้แม่เรียนรู้ ที่จะสงบ มองทุกอย่างในเชิงบวกมากขึ้นแม่ไม่มีลูกแล้ว ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง

ฉะนั้น.. แม่ถึงสามารถอยู่ได้โดยไม่มีมัน คนเป็นพ่อแม่ อย ากมอบสิ่งที่ดีที่สุด ให้กับลูก

แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ได้รับกลับมา มันไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด มีคนกล่าวเอาไว้ว่า..

“บ้านของพ่อแม่ คือ บ้านของลูกตลอดเวลา บ้านของลูก ไม่เคยเป็นบ้านของพ่อแม่หรอก”

การให้กำเนิดลูก เป็นงานที่ต้องทำ การเลี้ยงดูเป็นภาระหน้าที่ การพึ่งพาลูก เป็นความเข้าใจผิด

ช่างเป็นเรื่องราวที่ไม่ค่อยน่าฟังนัก แต่จะไม่ฟังก็ไม่ได้ แม้ว่าไม่ใช่ลูกทุกคน

จะเป็นเหมือนลูกชายในเรื่องนี้ ที่ไม่มีหัวใจ แต่คนเป็นพ่อแม่ ไม่ควรคิดว่า…

เเก่แล้วจะต้องพึ่งพาลูกๆ หากจะพูดกันตามตรง เเก่แล้วก็ต้องดูแลตัวเอง

เมื่อลูกกตัญญูต่อคุณ แสดงว่า.. คุณนั้นมีบุญมาก แต่หากลูกไม่กตัญญู พ่อแม่ก็ทำอะไรไม่ได้

“อ่านจบแล้วแล้วเราจะทำยังไงต่อไปดีละ”

ก็ตั้งวางแผนชีวิต พึ่งพาตัวเองให้ได้ในตอนแก่ดีที่สุด เพราะหลายคนเชื่อว่า การมีลูก

จะได้มีคนเลี้ยงตนตอนเเก่…เป็นความปรารถนาของใจ แต่ในปัจจุบันนี้ อะไรหลายๆอย่ าง

มันเปลี่ยนไปแล้ว และยุคนี้ไม่เหมาะที่จะคิดว่า…มีลูกเอาไว้เลี้ยงตอนเเก่อีกด้วย

“หวังว่าเรื่องนี้..จะช่วยเตือนสติใครหลายๆ คน

ในการวางความคาดหวังไว้กับลูกนั้น

ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเลย ขนาดคุณเอง

ยังชอบที่จะเลือกทางเดินให้กับตัวเอ ง

แล้วลูกคุณล่ะ เขาจะไม่อย ากทำบ้างหรือ

หากคาดหวังมีลูก เอาไว้เลี้ยงตอนเเก่นั้น มันผิด

และเห็นเเก่ตัวตั้งแต่คิดแล้ว เพราะเขา.. ก็ควร

จะมีชีวิตที่เขาเลือกเอง ในขณะเดียวกันนั้น

คุณก็เลือกที่จะใช้ชีวิตในแบบของตัวเองได้เหมือนกันนะ”

 

ขอบคุณ : sabuyjaijung

Load More Related Articles
Load More By Lookmhoo Chonticha
Load More In ข้อคิด

Check Also

7 พฤติกร ร มที่พ่อแม่…ทำให้ลูกเป็นเด็ก “ไม่รู้จักโต”

อย่างไรก็ดีเพราะพ่อและแม่ คือคนที่รักและหวังดีกับลูกมาก … …