
1.ปล่อยให้ลูกเล่นกับเพื่อนๆ
การปล่อยให้ลูกได้ใช้ชีวิตโดยไม่มีพ่อแม่คอยดูแลก็จะช่วยให้เด็ กเกิดการเรียนรู้ในการเข้าสังคม
แม้ว่าบางทีอาจะมีการทะเล า ะ หรือโดนเพื่องแกล้ ง บ้าง แต่นี่..คือวิธีการที่ดีที่ลูกจะได้แก้ปัญหาด้วยตัวเองดูบ้างนั่นเอง
2.พ่อแม่เรียนรู้ที่จะมีความสุข
นอกเหนือจากการพัฒนาผ่านทางทักษะและกิจกร ร มต่าง ๆ การเรียนรู้ที่จะมีความสุขในวัยเด็ ก
ยังขึ้นอยู่กับอารมณ์และพฤติก ร ร มของพ่อแม่ด้วย การที่พ่อแม่อารมณ์เสี ยให้ลูกนั้นได้เห็นบ่อย ๆ
ก็อาจบ่มเพาะความวิตกและปมในใจให้ลูกได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น นอกเหนือจากการฝึกให้ลูกพัฒนาทักษะ
ทางด้านอารมณ์ต่าง ๆ แล้ว พ่อแม่ควรมีความสุขและอารมณ์ดีก่อนจะได้เผื่อแผ่รังสีแห่งความสุขไปสู่ลูกได้ด้วยนั่นเอง
3.ให้ความรักความอบอุ่นกับลูกเสมอ
ลองสังเกตดูสิว่าเด็ กคนไหนที่เติบโตมาด้วยความรักและความเอาใส่ใจจากพ่อแม่เสมอนั้น
พวกเขาจะมีพัฒนาการที่ดีทั้งด้านสติปัญญาและด้านอารมณ์เลย
4.ให้กำลังใจลูกเสมอ
การกระ ตุ้ น ลูกให้ฉลาดนั้น ไม่ใช่การที่ให้เขาลงมือทำเพียงครั้งเดียวแล้วจะประสบความสำเร็จได้เลยนะ
แต่เกิดจากการทำซ้ำบ่อยๆ อย่ างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นทักษะกระบวนการคิด เกิดเป็นการเรียนรู้
และความฉลาด ดังนั้น เราควรพูดให้กำลังใจลูก เพื่อให้ลูกมีกำลังใจและรู้สึกดีที่จะเรียนรู้สิ่งนั่นต่อไป
5.เป็นแบบอย่ างที่ดีให้ลูก
สิ่งที่สำคัญที่สุดและง่ายๆ ที่สุด ก็คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูก เพราะเด็ กจะเรียนรู้
ได้อย่ างอัตโนมัติโดยไม่ต้องสอนเลย ไม่ว่าจะเป็นนิสัยใดๆ ถ้าแม่ชอบอ่ า น หนังสือให้ลูกบ่อยๆ
ลูกก็จะซึมซับนิสัยรักการอ่ านไปโดยปริยาย
6.ดูแลอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ
อาหารแต่ละมื้อของลูกควรเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ มีส า ร อาหาร ครบถ้วนเหมาะสมกับเด็ กวัยเจริญเติบโต
เช่น เมนูปลาทะเลต่างๆ ที่มี DHA ช่วยบำรุง ส ม อ ง
7.ให้ลูกกินนมแม่
เคยมีผู้วิจัยไว้ว่า การให้ลูกกินนมแม่อย่ างน้อย 6 เดือน ถึง 1 ปี นับเป็นหนึ่งในเคล็ดลับในการพัฒนา IQ
และ EQ ให้เด็ กอย่ าง เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพ คุณค่าทางโภชนาการของน้ำนม
แม่นั้นจะช่วยพัฒนาระบบทางประส า ทของเด็ ก และการใกล้ชิดระหว่างแม่กับลูกในขณะให้นม
ยังช่วยให้เด็ กรู้สึกอบอุ่นและรับรู้ถึงความรักความเอาใจใส่จากแม่ ช่วยเสริมสร้างทักษะ
ทางอารมณ์ให้แก่ลูกได้ด้วย
8.ถามตอบกับลูก
หากลูกของคุณเป็นเด็ กขี้สงสัย และถามพ่อแม่บ่อย ๆ นั้นถือเป็น สัญญาณที่ดี เพราะแสดงว่าลูกเป็น
คนช่างสังเกตและใฝ่รู้ หากลูกถามคำถามบ่อยๆ ขอให้คุณอย่ าเบื่ อหรือรำคาญเลย เพราะการถาม
ตอบของเด็ กจะช่วยให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ ที่สำคัญอย่ าลืมถามลูกกลับด้วย เช่น
รู้ไหมสิ่งนี้คืออะไร ถ้าลูกเจอสถานการณ์แบบนี้จะทำอย่างไร เพื่อ ก ร ะ ตุ้ น ให้ลูกได้คิดเพิ่มเติมนั่นเอง
9.เสริมสร้างกิจกรรมทางความทรงจำ
กิจกร รมทางความทรงจำ ช่วยพัฒนาทั้งทักษะในการจำของลูก
และทักษะในการใช้เหตุผลและภาษา ตลอดจนการปะติดปะต่อเหตุการณ์
และความเข้าใจสถานการณ์เฉพาะหน้าต่าง ๆ การให้ลูกเล่นกิจกร รมทางความทรงจำ เช่น
จิกซอว์ ครอสเวิร์ด ซูโดกุจึงนับเป็นอีกหนึ่งกิจก รร ม ที่ช่วยเสริมสร้าง IQ และ EQให้ลูก
ได้อย่ างสนุกสนานและมีประสิทธิภาพ
10.อ่านหนังสือกับลูก
แทนที่จะเพียงแค่กร ะ ตุ้ นให้ลูกอ่านหนังสือหรืออ่านหนังสือให้ลูกฟัง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการอ่านพร้อมกันกับลูก
และพย าย ามอธิบายจุดที่สำคัญที่น่าสนใจให้ลูกฟัง จะช่วยเพิ่มทั้งความเข้าใจ
และการพัฒนาทางสติปัญญาให้ลูก อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความรู้สึกอบอุ่น
และความรักระหว่างกันและกัน ถือเป็นวิธีการเลี้ยงลูกให้มีเหตุผล ฉลาด ตลอดจนรู้สึกถึงความรักจากพ่อแม่อีกด้วย
11.พาลูกไปเล่นกีฬา
การเล่นกีฬานอกจากทำให้ร่า งกา ยแข็งแรงแล้ว ยังช่วยฝึกความเร็วในการคิดวิเคราะห์
และกระบวนคิดอย่ างมีเหตุผลของลูกด้วย
12.กินมื้อค่ำด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา
กิจกรร มง่ายๆ อย่ างการกินมื้อค่ำด้วยกันอย่ างพร้อมหน้าพร้อมตาระหว่างพ่อแม่ลูก
หรือภายในครอบครัว คืออีกหนึ่งกิจกรรมที่เคยมี งาน วิ จั ย มาแล้วว่า เด็ กส่วนใหญ่ชื่นชอบ
และสามารถช่วยบ่มเพาะความสุขและการเติบโตทางอารมณ์ของลูกได้อย่ างอบอุ่น
และเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะการกินมื้อค่ำที่ครอบครัวสนใจ ที่จะแลกเปลี่ยนเหตุการณ์ประจำวัน
ของกันและกัน ถามสารทุกข์สุกดิบและแสดงความรักความห่วงใยต่อกันและกัน
13.ฝึกให้ลูกรู้สึกขอบคุณ
ความรู้สึกสำนึกขอบคุณ (Gratitude) หมายถึง ความรู้สึกขอบคุณและสุขใจเมื่อได้รับสิ่งต่าง ๆ
หรือการมองเห็นและซาบซึ้งกับแง่มุม บางอย่ างในชีวิตไม่ว่าจะเป็นสิ่งเล็กๆ หรือสิ่งใหญ่ๆ
มีงานวิจั ยพบว่าการหมั่นให้ลูกรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอ สามารถช่วยให้ลูกมองโลกใน
แง่บวกมากขึ้น มีความกระตือรือร้น และรู้สึกมีความสุขโดยการฝึกความรู้สึกขอบคุณสามารถทำได้ง่าย ๆ
เช่น ให้ลูกลองเขียนลงใน สมุดบันทึก ให้ลูกลองเอ่ยออกมาสักสองหรือสาม สิ่งที่เขารู้สึกขอบคุณประจำวัน ก่อนนอนหรือก่อนกินมื้อเย็น เป็นต้น
14.คาดหวังความพย าย าม ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ
การคาดหวังความพย าย าม จะช่วยให้ลูกสนุกสนานกับการเรียนและกิจกรรมที่เขากำลังทำได้ดี
กว่าการคาดหวังความสมบูรณ์แบบ มีงานวิ จั ย พบว่าพ่อแม่ที่มักคาดหวังความสมบูรณ์แบบจากลูกมัก
ทำให้ลูกเ สี่ ย ง มีภาวะ ซึ ม เ ศ ร้ า และวิตกกังวลในตอนโตโดยไม่รู้ตัว
การเลี้ยงลูกอยู่บนฐานของความพย าย ามจึงช่วยให้ลูกเห็นถึงคุณค่าในตัวเอง
และสิ่งเขาทำได้อย่ างเป็นเหตุผลเป็นผล และมีความสุขมากกว่า
15.ส่งเสริมให้ลูกเล่นดนตรี
งานวิ จั ยหลายแห่งพบว่า การฝึกให้ลูกเล่นดนตรี หรือแม้แค่เพียงหลงรักในเสียงดนตรี
สามารถช่วยพัฒนาทักษะทาง IQ ของลูกได้ อย่ างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว
แถมยังช่วยเสริมสร้างทักษะการแสดงออกทางอารมณ์ และปลดปล่อยความรู้สึกเศร้า
และสุขสมในจิตใจอย่ างสร้างสรรค์ด้วย
16.เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูก
คุณพ่อคุณแม่เป็นแบบอย่างให้ลูกทำสิ่งดี ๆ ตามลูกจะเรียนรู้โดยอัตโนมัติแทบไม่ต้องพูดสอนเลย
เช่น อยู่บ้านว่าง ๆ ก็หยิบหนังสือมาอ่าน ชอบที่จะอ่านนิทานให้ลูกฟัง